เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นลง นั่นแสดงถึงช่วงเวลาสิ้นปีเริ่มใกล้เข้ามาทุกที ฤดูหนาวเป็นช่วงที่หลายคนชื่นชอบ เพราะเป็นช่วงแห่งเทศกาลสีสันต่างๆ และเป็นเทศกาลแห่งการท่องเที่ยว พักผ่อนสิ้นปี สำหรับคนที่ไปเที่ยวโดยเดินทางรถสาธารณะอาจจะไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก แต่สําหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวและต้องการขับรถเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยรถยนต์ ก็ต้องมีการเช็กสภาพรถและความพร้อมของรถกันหน่อย เพื่อให้ขับรถระยะไกลได้อย่างปลอดภัย
เห็นแบบนี้แม้จะอยู่ในช่วงหน้าหนาวก็ยังต้องตรวจเช็กสภาพรถทุกครั้ง มาดูกันดีกว่าควรจะต้องเริ่มเช็กจากตรงไหนบ้าง?
1. ตรวจเช็กระบบไล่ฝ้า
เพราะฝ้าที่กระจกรถเกิดจากอุณหภูมิความชื้นภายในและภายนอกรถแตกต่างกัน ระบบไล่ฝ้าจึงมีประโยชน์อย่างมากเมื่ออุณหภูมิภายในและภายนอกรถไม่สมดุลกันจนเกิดฝ้าบดบังทัศนวิสัย ซึ่งในช่วงที่อากาศหนาวมักเกิดปัญหาฝ้าเกาะกระจกรถอยู่บ่อยๆ
2. ตรวจเช็กระบบเบรก
ก่อนขับรถทุกครั้งการตรวจเช็กระบบเบรกกับน้ำมันเบรกคือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะคนขับรถอาจต้องเจอกับเส้นทางที่หลากหลายทั้งทางราบ ทางโค้ง ทางลาดชัน ไปจนถึงทางขึ้นเขา-ลงเขา
3. ตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องที่ดีจะช่วยให้ระบบจุดระเบิดและระบบเผาไหม้ในเครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นก่อนขับรถเที่ยวอย่าลืมเช็กน้ำมันเครื่องว่ายังใส สะอาด และมีปริมาณเหมาะสมหรือไม่ หรือจะนำรถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่เพื่อความอุ่นใจไว้ก่อนก็ได้
4. ตรวจเช็กแบตเตอรี่
อากาศเย็นอาจทำให้แบตเตอรี่เย็นจนสตาร์ทรถยากขึ้นรวมถึงมีปัญหาเรื่องความชื้นในแบตเตอรี่ด้วย ดังนั้นอย่าลืมเช็กแบตเตอรี่ว่ายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ รวมถึงเช็กขั้วแบตเตอรี่ สายแบตเตอรี่ และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์
5. ตรวจเช็กน้ำยาฉีดกระจก
น้ำยาฉีดกระจกเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการขับรถเที่ยวหน้าหนาว เพราะเมื่อขับรถไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน หากมีคราบน้ำ ไอน้ำ แมลง หรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆ เกาะติดกระจก
ทําให้พร่ามัวหรือมองไม่ค่อยชัดน้ำยาฉีดกระจกจะช่วยทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้เพื่อให้กระจกใสขึ้นได้และมองสิ่งด้านนอกได้ชัดเจน
6. ตรวจเช็กใบปัดน้ำฝน
นอกจากเช็กน้ำยาฉีดกระจกแล้ว ใบปัดน้ำฝนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะอากาศหนาวอาจทำให้ยางของใบปัดน้ำฝนเสื่อม แข็ง จนปัดคราบน้ำต่างๆ ออกได้ไม่เกลี้ยง
ดังนั้นจึงควรตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของใบปัดน้ำฝนก่อนเดินทางไกลอยู่เสมอ
7. ตรวจเช็กสัญญาณไฟ
สิ่งสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้เด็ดขาด นั่นคือการตรวจเช็กระบบสัญญาณไฟต่างทั้งหมด ทั้งไฟส่องสว่าง ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน รวมถึงเช็กสัญญาณไฟแจ้งเตือนในรถยนต์ด้วยว่าขึ้นแจ้งเตือนเป็นปกติหรือไม่
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เช่น รถชนเพราะคนขับหลับใน รถชนเพราะใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ รถโดนชนเพราะคู่กรณีเมา หรือใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
Comments